โรคซึมเศร้า อาการที่สารเคมีในสมองไม่สมดุลกัน เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
โรคซึมเศร้า ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของใครหลาย ๆ คนมากพอสมควร ผู้ที่รู้ทันสามารถรักษาอาการให้ดีขึ้นและหายขาดได้ แต่ที่น่ากังวล คือ ผู้ที่ต้องเผชิญปัญหาโรคนี้แบบไม่รู้ตัว จนอาจกลายเป็นการทิ้งไว้ให้เรื้อรัง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจมากพอสมควร ดังนั้นเมื่อคุณรู้สึกหดหู่ ท้อแท้ หรือมีพฤติกรรมผิดแปลกไปจากเดิม จนทำให้คนรอบข้างเริ่มพูดถึง อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบตรวจสอบดูว่าคุณกำลังเข้าใกล้โรคซึมเศร้าแล้วหรือยัง?
การเปลี่ยนแปลงเด่นชัด ของผู้ที่กำลังเข้าสู่โรคซึมเศร้า
สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยว่าตัวเองจะเข้าข่ายการเป็นโรคซึมเศร้าง หรือไม่? ขอแนะนำการตรวจสอบอาการและความเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมที่คุณควรใส่ใจ ตรวจสอบ และรู้ให้ทัน ดังนี้
1.การเปลี่ยนแปลงทางสภาวะอารมณ์
เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุด ถ้าเมื่อใดที่คุณยังคงยิ้มสดใส แต่อยู่ดี ๆ เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว มาเป็นอาการหดหู่ มีความรู้สึกเศร้ามากกว่าปกติ สะเทือนใจได้ง่าย และเริ่มร้องไห้บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่แค่ไหน จะมีอารมณ์อ่อนไหวร่วมไปกับทุกสถานการณ์ มีสภาวะอารมณ์ที่ไม่สดใสเหมือนเดิม กิจกรรมที่เคยสร้างความเพลิดเพลินให้ กลับกลายเป็นความรู้สึกเบื่อ รำคาญ และมองว่าทุกอย่างในชีวิต ทำไปแล้วไม่มีความสุข นั่นหมายความว่าคุณกำลังเข้าใกล้สภาวะซึมเศร้ามากขึ้น
2.การเปลี่ยนแปลงทางความคิด
การเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด คือ การมองกลับไปสู่อดีต มองหาความผิดพลาดของตัวเอง และกลายเป็นความรู้สึกล้มเหลว ไม่เคยพึงพอใจในความสามารถของตัวเอง มองว่าไม่มีคุณค่าสำหรับใคร แม้จะมีผู้เต็มใจให้ความช่วยเหลือ หรือคอยพูดคุยด้วย แต่จะยังคงมีความคิดในด้านลบ รู้สึกไม่สบายใจ หมดหวัง ท้อแท้ และมักจะย้อนกลับสู่เหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจในอดีตบ่อยครั้ง จนอาจกลายเป็นการทำร้ายตนเอง
3.การเปลี่ยนแปลงเรื่องสมาธิ
ทางด้านสมาธิและความจำจะสั้นลง มีอาการหลงลืมได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกิดใหม่ แม้จะผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง จะทำให้จำไม่ได้ นึกไม่ออก หรืออาจมีการพูดวนซ้ำเรื่องเดิม ๆ มีอาการเหม่อลอย การทำงานจึงแย่ลง สล็อต
4.การเปลี่ยนแปลงทางความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง หรือแม้แต่กับคนรัก จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวร้ายลง เพราะจากที่เคยมีความสุข หรือร่าเริงสดใส จะกลายเป็นคนที่มีอารมณ์หม่นหมองตลอด บางรายอาจมีอาการหงุดหงิดร่วมด้วย จึงอาจกลายเป็นชนวนให้ทะเลาะกับคนรอบข้างได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีอาการทางร่างกาย ที่บ่งบอกทั้งเรื่องของอาการปวดหัว, อาการปากแห้ง, อาการแน่นท้อง, เจ็บหน้าอก, ท้องอืด และน้ำหนักอาจจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
5.การเปลี่ยนไปสู่อาการทางจิตชัดเจน
โรคซึมเศร้าที่พัฒนาสู่การเป็นอาการทางจิต ถือเป็นอาการที่หนักขึ้น และมีปัญหากับคนรอบข้าง ที่กลายเป็นแรงกระตุ้น ทำให้อาการซึมเศร้าเพิ่มสูงขึ้น โดยจะแสดงอาการที่ได้ยินเสียง ในลักษณะหูแว่ว รู้สึกกังวลว่าจะมีคนคอยแกล้ง หรือจะทำร้ายตนเองตลอดเวลา
วิธีการดูแลตัวเอง เมื่อรู้ว่ากำลังเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า
เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าจะเข้าใกล้ต่อการเป็นโรคซึมเศร้า แนะนำให้ลองตรวจสอบดูว่ามีอาการเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรม และความคิดตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นหรือไม่ ถ้ามีอาการตรงหลายข้อ ให้คุณพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอย่างชัดเจนที่สุด โดยแพทย์จะมีการตรวจสอบ ทั้งเรื่องสภาพจิตใจและสภาพร่างกาย พร้อมให้การตรวจสอบเรื่องต่าง ๆ อย่างละเอียดอ่อน จำเป็นมากที่จะต้องเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน มีทักษะในการตรวจการเป็นโรคซึมเศร้า ต้องใช้ความแม่นยำเพื่อวินิจฉัยผลออกมาให้ชัดเจน และจะต้องมีการให้คำแนะนำ พร้อมให้ยาอย่างต่อเนื่อง จึงจะทำให้เห็นผล
โดยยารักษาอาการโรคซึมเศร้า จะต้องวินิจฉัยพ่วงไปกับโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ เพราะยาบางประเภทอาจไปกระตุ้นโรค หรือทำให้สุขภาพทรุดลง ดังนั้นการรักษาอาการซึมเศร้า จึงจำเป็นต้องพบแพทย์เท่านั้น ไม่สามารถหาซื้อยามารับประทานเองได้
Tagที่เกี่ยวข้อง
