ภูมิแพ้ เรื่องใกล้ตัวเด็กที่ผู้ใหญ่ไม่ควรมองข้าม!
ปัญหาภูมิแพ้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ในวัยเด็กอาการภูมิแพ้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่หรือผู้ปกครอง ต้องรู้ให้ทัน เพื่อไม่ให้กลายเป็นปัญหาสุขภาพลุกลามในอนาคต ที่สำคัญคือวัยเด็ก ยังไม่มีความเข้าใจในอาการภูมิแพ้ จึงอาจทำให้การระมัดระวังต่อสารกระตุ้นการเกิดภูมิแพ้ จะเป็นไปได้ยาก ดังนั้นผู้ปกครองจึงต้องเข้าใจและศึกษาให้ดี เพื่อมองหาทางแก้ไขและบอกให้เด็ก ๆ ได้ระวังตัว เพราะอาการภูมิแพ้ในวัยเด็กอาจพ่วงสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว
โรคภูมิแพ้ในเด็กมีแบบไหนบ้าง? เรื่องที่ผู้ปกครองควรรู้
เมื่อคุณเริ่มสงสัยว่าเด็ก ๆ ที่บ้าน มีอาการภูมิแพ้หรือไม่? เรื่องแรกที่ควรทำ คือการพาไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อการตรวจสอบและรักษาได้อย่างถูกต้อง โดยการแบ่งประเภทภูมิแพ้ที่มักเกิดในเด็ก คือ
1.ภูมิแพ้ผิวหนัง
โรคภูมิแพ้ผิวหนังจะเกิดจากการอักเสบ จึงปรากฏออกมาเป็นผื่นแดง ผื่นคัน และอาจเป็นผิวแห้งตกสะเก็ด ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำให้เด็กหลับไม่สนิท เกิดความรู้สึกไม่สบายตัว และอาจมีการเกาที่พาให้ผิวหนังอักเสบได้มากขึ้น ทั้งยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการพัฒนาสู่ภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ และกลายเป็นหอบหืดได้อีกด้วย
2.ภูมิแพ้อาหาร
ปฏิกิริยาของการเป็นภูมิแพ้อาหาร จะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงขวบแรกของปี โดยจะแสดงอาการออกผ่านทางผิวหนังได้เช่นกัน คือ การเกิดผื่นลมพิษ หรือผื่นอักเสบ พร้อมมีอาการอาเจียน ท้องเสีย หายใจเสียงดัง หรืออาการปวดท้องร่วมด้วย ถ้าอาการหนักขึ้นอาจรุนแรงต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งการแพ้อาหารเกิดขึ้นได้มากในวัยเด็ก ดังนั้นต้องพบแพทย์และรู้ให้ทันว่าอาหารประเภทไหน? ที่เด็กไม่ควรรับประทาน โดยเฉพาะในกลุ่มแป้ง, ไข่, นมวัว, ถั่วลิสง และอาหารทะเล ที่ถือเป็นอาหารยอดฮิต สร้างภูมิแพ้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มากเลยทีเดียว เว็บสล็อตออนไลน์
3.ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ
โรคภูมิแพ้ที่มาในรูปแบบทางเดินหายใจ หรือจมูกอักเสบ จะเกิดที่บริเวณเยื่อบุจมูกเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้แสดงอาการเป็นคัดจมูก น้ำมูกไหล รู้สึกคันจมูก และจามบ่อยครั้ง ทั้งยังสามารถมีอาการน้ำตาไหล หรือมีรอยคล้ำใต้ดวงตาร่วมด้วย ซึ่งสามารถพัฒนาสู่การเป็นโรคริดสีดวงจมูกในอนาคตได้
4.ภูมิแพ้จากการติดเชื้อ
ลักษณะของอาการภูมิแพ้จากการติดเชื้อ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่ากลัวสำหรับเด็ก ๆ เพราะจะส่งผลให้กลายเป็นโรคหอบหืด มีอาการไอและเหนื่อยง่าย มีเสียงหายใจดังผิดปกติ หรือมีอาการแน่นคอ จนทำให้การหายใจลำบาก เรียกได้ว่ามีอาการบวมที่บริเวณทางเดินหายใจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นหลังการติดเชื้อ
5.ภูมิแพ้ที่บริเวณตา
อาการภูมิแพ้ที่บริเวณดวงตา อาจเป็นอาการที่ไม่มากนัก จะมาแบบเป็น ๆ หาย ๆ แต่เมื่อใดที่เกิดสิ่งกระตุ้นจะมาตลอด จนอาจพาให้เกิดอุปสรรคในการใช้ชีวิตได้ง่าย โดยจะแสดงอาการเป็นน้ำตาไหลตลอดเวลา มีอาการคันและเคืองดวงตา ตาบวม เกิดการกระพริบตาบ่อยครั้ง และอาจจะเป็นภูมิแพ้จมูกร่วมด้วย
การดูแลเด็กที่มีภาวะภูมิแพ้ในร่างกาย
การพบแพทย์ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด ของการดูแลและรักษาเด็กที่มีภาวะภูมิแพ้ ควรเข้าสู่การวินิจฉัยของแพทย์ เพื่อการตรวจสอบอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ
- การสะกิดที่ผิวหนัง เพื่อตรวจสอบหาสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
- การตรวจเลือด เพื่อหาค่าสารก่อภูมิแพ้อย่าง specific IgE ซึ่งจะทำให้รู้ได้ทันทีว่าอาการแพ้ของเด็กนั้น เกิดขึ้นจากสิ่งใด
ส่วนการดูแลผู้ปกครอง จะต้องเลี่ยงอาหารและสารทุกประเภท ที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ พร้อมการใช้ยาที่แพทย์สั่งเพิ่มด้วย ความสะอาดถือเป็นเรื่องสำคัญ ในการรักษาภูมิแพ้ เพราะฝุ่นควัน ไรฝุ่น หรือแม้แต่เชื้อราที่ฝุ่งในอากาศ จะเป็นส่วนสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดภาวะภูมิแพ้หนักขึ้น ดังนั้นการทำความสะอาดผ้าปูที่นอน, ปลอกหมอน และสิ่งของต่าง ๆ ภายในห้องนอน ด้วยน้ำอุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส จะช่วยป้องกันไรฝุ่นและกำจัดเชื้อต่าง ๆ ที่จะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ดีมากขึ้น
ถ้ามีการเลี้ยงแมวหรือสุนัขภายในบ้าน จะต้องอาบน้ำ เพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้บนขนของสัตว์เลี้ยงทุกสัปดาห์ นอกจากนี้ตัวผู้ปกครอง ควรกระตุ้นให้เด็กมีการออกกำลังกายเป็นประจำ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พร้อมให้การพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ เพื่อกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันสูงขึ้น และลดอาการภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี
Tagที่เกี่ยวข้อง