ติดเชื้อในปอด เมื่อหายแล้ว! ต้องรู้วิธีดูแลตัวเอง เพื่อสุขภาพปอดที่ดีขึ้น
ปอดติดเชื้อและปอดอักเสบ เป็นหนึ่งในอาการที่น่ากังวลใจไม่น้อย เพราะเมื่อใดที่เชื้อเริ่มกระจายออกไป อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ทันที โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากปัญหาเล็ก ๆ อย่างการป่วยเป็นไข้หวัด หรือมีอาการไอ จาม และมีอาการคล้ายกับภูมิแพ้ทั่วไป แต่กลับให้ความรู้สึกเจ็บแน่นหน้าอก หายใจไม่ดีพอ และเกิดปัญหาซึมเศร้าหรือสับสน ซึ่งนั่นถือเป็นสัญญาณสำคัญ ที่กลายเป็นภาวะการติดเชื้อในปอด ถ้ารักษาไม่ทันอาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้สูงมาก
การติดเชื้อในปอด! โรคที่มาพร้อมหน้าฝน
ภาวะการติดเชื้อในปอด จะมาจากเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายและลงไปที่บริเวณปอดอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเชื้อที่เข้าผ่านทางจมูก แล้วไปต่อที่บริเวณลำคอ, หลอดลมเล็กและใหญ่ จากนั้นจะถูกส่งต่อไปที่ถุงลมปอด ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปอดติดเชื้อ จะมาจากลมหายใจและการติดเชื้อผ่านกระแสเลือด จากนั้นจะกระจายไปสู่กระแสเลือด และกลายเป็นการติดเชื้อที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเกิดความรุนแรง อาจพาให้เสียชีวิตได้รวดเร็วมาก การเกิดโรคปอดติดเชื้อ มักจะมาพร้อมกับช่วงหน้าฝน ที่จะเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จุดเริ่มต้น คือ อาการไข้หวัดและเพิ่มอาการสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งกลายมาเป็นโรคที่มีสถิติผู้ป่วยเสียชีวิตในแต่ละปีจำนวนสูงพอสมควร เนื่องมาจากความชื้นภายในอากาศ และเชื้อที่อาจมาตามลม จึงทำให้ผ่านเข้าสู่จมูกจากการสูดลมหายใจได้ง่าย เมื่อมาพบกับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภูมิคุ้มกันลดต่ำลง และผู้ที่มีการรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน จะทำให้เชื้อนี้ทะลุเข้าสู่ปอดได้ง่ายมาก
โดยพาหะหรือตัวนำเชื้อ จะมาพร้อมกับละอองฝนและฝุ่น ที่จะลอยอยู่ภายในอากาศ เมื่อใดที่คุณอยู่ในจุดมีเชื้อจำนวนมาก ย่อมหลีกเลี่ยงได้ยาก และกลายเป็นการนำพาหะเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว แต่จะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับบริเวณที่คุณอยู่ มีพาหะเป็นจำนวนมากแค่ไหน แต่ไม่ว่าการติดเชื้อจะมีมากหรือน้อย ถ้าดูแลรักษาไม่ดีหรือรักษาไม่ทันเวลา อาจกลายเป็นการเรื้อรัง ที่ทำให้เสียชีวิตได้ง่าย และยังกระจายเชื้อต่อไปสู่ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
อาการบ่งบอกว่าคุณกำลังจะติดเชื้อในปอด รู้ไว้! เพื่อการรักษาทันท่วงที
ลักษณะของอาการปอดติดเชื้อ จะมีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดทั่วไปเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือเมื่ออาการเริ่มหนักขึ้น จะมีความคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ จึงทำให้การตรวจพบโรคเป็นไปได้ค่อนข้างยาก แต่ยังมีอีกหลายอาการที่จะบ่งบอกได้ค่อนข้างชัดว่ามีปัญหาปอดติดเชื้อ คือ
- แม้จะมีอาการไข้สูงและหนาวสั่น แต่กลับไม่มีอาการเจ็บคอ ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำมูกไหล
- เวลาไอจะรู้สึกเจ็บและแน่นหน้าอก พร้อมให้ความรู้สึกหอบเหนื่อยอยู่ตลอด สล็อต
- เมื่อหายใจเข้าออกลึก ๆ แล้ว จะรู้สึกเจ็บที่บริเวณชายโครงเป็นพิเศษ
- มีอาการอ่อนเพลียง่ายและมักจะคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมไปกับอาการเป็นไข้ หรือไอและมีเสมหะมากผิดปกติ
- อาการเริ่มต้นจะเป็นไข้ประมาณ 1-3 วัน จากนั้นจะเริ่มเจ็บหน้าอกรุนแรง และมีอาการเหนื่อยทุกครั้งที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันต่อเนื่อง 2-3 วัน โดยที่อาการเป็นไข้ไม่ลดลง
การดูแล การรักษา และการป้องกัน เพื่อปอดที่แข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อใดที่เริ่มมีอาการไข้หวัดแบบเรื้อรัง และมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกร่วมด้วย ควรเข้าสู่การวินิจฉัยของแพทย์ ที่จะเป็นการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เริ่มต้นตั้งแต่การซักประวัติ, การตรวจออกซิเจนภายในเลือด, การตรวจชีพจร และการตรวจวิธีหายใจแบบครบถ้วน เพื่อมองหาความผิดปกติภายในร่างกาย และสามารถทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที โดยแนวทางการรักษาของแพทย์ จะเน้นการให้ยาฆ่าเชื้อ โดยที่ยานี้จะต้องเหมาะสมต่อผู้ใช้แต่ละราย เพราะเรื่องของสุขภาพและช่วงวัย รวมไปถึงโรคประจำตัวที่แตกต่างกัน
ดังนั้นการพบแพทย์ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ที่สำคัญที่สุด คือ การรักษาผู้ป่วยปอดติดเชื้อ จะต้องให้ยาฆ่าเชื้อรวดเร็วมาก ต้องรู้ตัวเร็ว รับยาเร็ว เพื่ออัตราการรอดชีวิตที่สูงขึ้น ไม่ควรทิ้งไว้ให้กลายเป็นการเรื้อรังจนซึมเข้าสู่กระแสเลือด เพราะจะเสียชีวิตได้เร็วมาก นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในจุดที่มีผู้คนจำนวนมาก มีความชื้นภายในอากาศสูง หรืออยู่ในจุดที่ฝนตกหนัก และมีละอองฝุ่น ละอองฝนจำนวนมาก ซึ่งรอบนี้จะเป็นอันตรายต่อผู้สูงวัย ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป และเด็กเล็ก ดังนั้นจึงไม่ควรเสี่ยงให้คนในครอบครัวไปอยู่ในจุดที่ไม่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาปอดติดเชื้อให้ได้มากที่สุด
Tagที่เกี่ยวข้อง
